ในบทความนี้ ผมจะสอนเพื่อนๆ เกี่ยวกับทุกๆอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับการลงโฆษณาใน Facebook Ads
Facebook เป็น Platform ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 2 ล้านล้าน คน ทั่วโลก และ เพื่อนๆสามารถโฆษณาสินค้า บริการของเพื่อนๆ กับคนทั้ง 2 ล้านล้าน คนนี้ทั่วโลกเช่นกันครับ Credit by https://www.statista.com/statistics/264810/number-of-monthly-active-facebook-users-worldwide/
ความน่าสนใจอยู่ที่ เราสามารถเลือกเจาะจง ตามสถานที่, เพศ, อายุ, ความสนใจ, พฤติกรรม, และเราสามารถสร้างโฆษณาเจ๋งๆไปแสดงให้ลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น รูป อัลบั้ม วีดีโอ และอื่นๆ
เราจ่ายค่าโฆษณาเมือมีคนเห็นโฆษณา (CPM) ใน Facebook ซึ่งเป็นราคากลางที่ทาง Facebook กำหนดขึ้น การเลือกใช้ Ad creative ที่ดี สามารถช่วยให้คนสนใจสินค้าหรือแบรนด์เราได้ดียิ่งขึ้นครับ
ถ้าเกิดเพื่อนๆยังไม่เคยโฆษณาใน Facebook Ads มาก่อน เพื่อนๆต้องทำการตั้งค่าต่างๆใน Account โฆษณาดังนี้ครับ
กดไปที่ Ads Manager (www.facebook.com/ads/manager) ตรงเมนูข้างบน กดคลิก Ads Manager อีกรอบ
ต่อจากนั้นจะเมนูตั้งค่าการจ่ายเงินจะแสดงออกมา ให้เราเลือก Billing & Payment Methods
หลังจากนั้น เพื่อนๆสามารถ ตั้งค่าการจ่ายเงินที่ใช้โฆษณาได้ครับ โดยการจ่ายเงินค่าโฆษณาแบ่งเป็น 2 แบบ คือ prepaid และ postpaid
Prepaid คือ จ่ายเงินก่อน เช่น เพื่อนๆ เติมเงินเข้าไป 1000 บาท เพื่อนๆก็สามารถใช้เงินค่าโฆษณาได้ 1000 บาทครับ
postpaid คือ จ่ายเงินที่หลัง หมายความว่า ทาง Facebook จะให้เครดิตกับเราครับ เมื่อเพื่อนๆจ่ายเงินตรงเวลา และสม่ำเสมอ ทาง Facebook จะค่อยๆเพิ่มเครดิตให้กับเราครับ จนสูงสุดที่ 25,000 บาท *หมายเหตุ ถ้าเป็นรูปแบบบริษัทจะสามารถทำเป็น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครดิตของแต่ล่ะบริษัทโฆษณาครับ
ในส่วนของรูปแบบการรับชำระเงินของทาง Facebook มีด้วยกัน 4 ช่องทางด้วยกันครับ คือ
ในหัวข้อนี้เพื่อนๆจะได้เรียนรู้วิธีการสร้างโฆษณาครับ แต่ก่อนอื่นเลย เพื่อนต้องวางแผนแคมเปญโฆษณาของเพื่อนๆก่อนครับ ว่าแคมเปญโฆษณาของเพื่อนๆจะทำเพื่อ ให้คนจดจำแบรนด์ของเราได้ (brand awareness) หรือ เน้นที่ ขายของกับสินค้าของเพื่อนๆครับ (Conversion)
เมื่อเพื่อนๆตัดสินใจได้แล้วว่าจะสร้างแคมเปญแบบไหน ทาง Facebook มีการแบ่ง วัตถุประสงค์ของการโฆษณา (Objective) ไว้รองรับแคมเปญของเพื่อนๆครับ ไม่ว่าจะเป็น ลงโฆษณาเพื่อการ จดจำแบรนด์ หรือ เน้นที่ขายของ โดยแบ่งออกเป็นทั่งหมด 6 วัตถุประสงค์โฆษณาครับ ตามรูปด้านล่าง
Brand awareness คือ การสร้างแคมเปญโฆษณาเพื่อให้คนจดจำแบรนด์หรือสินค้าของเราได้ครับ Reach คือ การสร้างแคมเปญโฆษณาเพื่อให้คนเห็นโฆษณาของเราเยอะที่สุดครับ Traffic คือ การสร้างแคมเปญโฆษณาเพื่อเน้นให้คนคลิกเข้าไปเวปไซต์ Engagement คือ การสร้างแคมเปญโฆษณาเพื่อคนเข้ามา กด comment กดlike กดแชร์ ใน Facebook ครับ App installs คือ ถ้าหากเพื่อนๆมี Application และต้องการให้คน Download Application ของเพื่อนๆในปริมาณมาก ผมแนะนำสร้างแมเปญแบบนี้เลยครับ Video Views คือ แต่ถ้าหากเพื่อนๆมี VDO เจ๋งๆหรือ VDO ที่เอาไว้ใช้โปรโมทสินค้า ขายของ ก็ต้องเลือก วัตุประสงค์โฆษณาเป็นแบบนี้เลยครับ Lead generation คือ แคมเปญที่ต้องการเก็บรายชื่อลูกค้าเป็นหลัก Conversions คือ แคมเปญที่เน้นยอดขาย หรือ ถ้าเพื่อนๆมีต้องการขายของผ่าน website ก็ต้องเลือกอันนี้เลยครับ Product Catalog Sales คือ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ มีสินค้าจำนวนมาก ผมแนะนำวัตุประสงค์นี้ครับ Facebook ทำมาเพื่อ รายการสินค้าทั้งหมดที่เพื่อนๆต้องการลงโฆษณาบน Facebook ครับ Store visit แต่ถ้ามีร้านค้าออฟไลน์ก็ต้องตัวนี้เลย Store Visit
ในขั้นตอนต่อไป เพื่อนๆจำเป็นต้องเลือก ประเทศ จังหวัด หรือ เขตไหนที่เพื่อนๆอยากให้คนเห็นโฆษณาของเพื่อนๆครับ
นอกจากนั้นสามารถระบุ ถึง อายุ เพศ รวมถึง ภาษาต่างๆที่ ลูกค้าเราเลือกใช้ด้วย เจ๋งไหมล่ะ
ต่อจากนั้นผมแนะนำให้เพื่อนๆ เริ่มเจาะกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าให้ตรงกับสินค้าของเรามากขึ้นครับ ทำไมต้องเจาะกลุ่มเป้าหมายตามสนใจหรือตามลักษณะเฉพาะมากขึ้นครับ เหตุผลง่ายมากๆครับ สมมุติว่าเพื่อนๆของใช้เด็ก เพื่อนๆก็คนอยากแสดงสินค้าให้เฉพาะคุณแม่ที่มีลูก ใช่ไหมครับ คงไม่ดีแน่ถ้าเราเอาสินค้าของเราไปแสดงให้กับคนที่ไม่สนใจสินค้าของเราครับ
Facebook อนุญาติให้เพื่อนๆตั้งค่างบประมาณโฆษณาได้ 2 แบบด้วยกันครับ คือ Daily Budget และ Lifttime Budget
ส่วนสุดท้าย แต่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดครับ คือ Ad creative เพื่อนๆ ต้องเลือกครับว่า Creative แบบไหนที่เพื่อนๆจะต้องการเลือกใช้ Single image / VDO / multiple images / etc..
โดยขนาดรูปภาพที่ทาง Facebook แนะนำคือ 1,200 x 628 Pixel ครับ เป็นขนาดที่ทางเมื่อลูกค้าของเราเห็นและจะสนใจ Ad Creative ของเพื่อนๆมากที่สุดนั้นเอง