ผมรู้สึกมีพลังทุกครั้งเวลาที่ได้ฟัง “เรื่องราว” ของคนดังที่ประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น สตีฟ จ๊อบ ผู้สร้าง Apple , มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แห่ง FaceBook , อีลอน มัสก ์ผู้สร้าง รถไฟฟ้าเทสล่าและสเปซเอ็กซ์ และ “เรื่องราว” ของคนดังของไทยที่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึง บรรดาๆ พี่ๆ น้องๆ ในแวดวงออนไลน์ ที่ผมเคยทำงานด้วยกันมา ทำไม “เรื่องราว” ของคนเหล่านี้ช่างน่าสนใจจังเลย อะไรที่ทำให้พวกเขา พิเศษ แตกต่างจากคนทั่วไป
ไร้เป้าหมาย .. ก็ไร้พลัง
ไร้พลัง .. ก็ไร้ทุกสิ่ง
@ วอร์เรน บัฟเฟตต์
ผมได้เห็นข้อความนี้ ในหนังสือเล่มหนึ่งจึงได้เข้าใจ
คนเหล่านี้มี “เป้าหมาย” .. เป้าหมาย เมื่อรวมกับ “ความพยายามอย่างที่สุด”
ทำให้เกิด เรื่องราว ที่น่าสนใจขึ้นมาได้
ในหนังสือยังเล่าอีกว่า ผู้เขียนเคยได้รับหนังสือ ชื่อว่า The Greatest Story Ever Told
( เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ ) จากเพื่อนคนหนึ่ง แค่เห็นหน้าปกเค้าก็อยากจะเปิดอ่านทันที
แต่พอเปิดดูหน้าใน กลับกลายเป็น หนังสือที่มีแต่หน้ากระดาษว่างเปล่าทั้งหมด
มีเพียงข้อความเล็กๆ ว่า
“ เพื่อนรัก ชีวิตของเธออยู่ตรงนี้แล้ว ขอให้เขียนเรื่องราวดีๆ ที่เธอทำด้วยความตั้งใจ
จงเขียนเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ในชีวิตเธอลงไปให้เต็มหน้าว่างพวกนี้ ขอให้โชคดี ”
ช่ายยยย .. ชีวิตของเรา เราต้องเขียนมันขึ้นมาเอง
ไม่ใช่เรื่องราวของคนอื่นแล้วนะ .. แต่เป็นเรื่องราวของเราเอง
ชีวิตเป็นของเรา .. เราคือ “ตัวเอก” ของเรื่องที่น่าสนใจเรื่องนี้
เราจะปล่อยให้ชีวิตลอยไปตาม โชคชะตา ฟ้าลิขิต
หรือ มาเริ่มต้นใหม่ เลือกทำให้ชีวิตมีความหมาย
คนเราเกิดมาชีวิตหนึ่ง ไม่ว่าจะเดินไปในเส้นทางไหน
ก็ต้องฝากผลงานชิ้นสำคัญเอาไว้บ้างสิ
เคล็ดลับคือ “ การใช้ชีวิตในแต่ละวัน ด้วยความตั้งใจ ” ครับ
เราตั้งใจทำ สิ่งที่ต้องทำในทุกวัน ค่อยๆ สำเร็จเล็กๆ
เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
ไม่แปลกที่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่า เป้าหมายของตัวเองคืออะไร
ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ไม่ต้องร้อนรนไปนะครับ
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง FaceBook เค้าก็เริ่มต้นจากความสนุกในการลอง สร้างโปรแกรมแชทเล็กๆ ชื่อว่า ZuckNet (คล้าย MSN) เพื่อให้พี่น้องในครอบครัวได้คุยกันจากคนละห้อง ทำให้เค้ารู้ว่าการทำให้ “ผู้คนได้เชื่อมโยงถึงกัน” มันสนุกแค่ไหน
และหลังจากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เค้าก็ได้สร้าง FaceMash โดยไปแอบขโมยเอาข้อมูลและรูปภาพของนักศึกษาในฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย แล้วนำมาเปิดให้ทุกคนเข้าโหวต เพื่อหาคนที่ร้อนแรงที่สุดในมหาวิทยาลัย กลายเป็นกระแส กลายเป็นที่สนใจของทุกคนในมหาวิทยาลัยมาก แต่ในที่สุด ก็ถูกสั่งปิด เพราะมีความผิดฐานเข้าไปเอาข้อมูลมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่บทเรียนนี้ก็ทำให้ มาร์ก เริ่มมั่นใจ และมองเห็นเป้าหมายของตัวเองชัดขึ้นแล้วว่า
“อยากทำให้โลกเปิดกว้างขึ้น ทำให้ทุกคนได้เชื่อมต่อถึงกัน”
ในที่สุด ก็เกิดเป็น FaceBook ในเวลาต่อมา
ในตอนแรก มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนเท่าไหร่นัก เค้าอาจจะไม่เคยฝันถึงเฟสบุ๊คแบบในปัจจุบันด้วยซ้ำ แต่ในทุกๆ งานที่เค้าทำ ทำให้เกิดการเรียนรู้ และกลายเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น เราเองถ้าจะยังไม่มีเป้าหมายของตัวเองที่ชัดเจน ก็ยังไม่เป็นไรนะครับ
น้องคนนึงที่ผมรู้จัก เค้าชอบเที่ยวกลางคืน นั่งชิวกินเหล้า พบปะผู้คนใหม่ๆ แต่ถ้าไปกินเฉยๆ ก็คงจะเสียเงิน เสียสุขภาพ เสียเวลา เลยคิดทำ App ชื่อว่า Thai2Night ขึ้นมา ที่รวมเอาร้านกลางคืนประเภทต่างๆ พร้อมให้ คำแนะนำ รีวิว ให้รายละเอียดของร้าน และโปรโมชั่น ต่างๆ รวมกันเอาไว้ (คล้าย WongNai) เค้าได้ทำสิ่งที่มีความสุข และส่งผลบวกต่อชีวิตด้วย แบบนี้ถือว่าใช้ได้
แด่คนบ้า คนแปลกแยก กบฏ ตัวป่วน
คนที่อยู่ผิดที่ผิดทาง คนที่มองอะไรต่างจากคนอื่น ..
เพราะมีแต่คนที่บ้าพอจะคิดว่าตัวเองเปลี่ยนโลกได้เท่านั้น ที่ลงมือทำจริงๆ
@ สตีฟ จ็อบส์
การอยู่เฉยๆ ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย เพราะเราจะไม่มีวันผิดพลาด และแน่นอน เราก็จะไม่มีวันสำเร็จด้วยเหมือนกัน แค่เริ่มทำ ไม่ต้องยิ่งใหญ่ ทำเล็กๆ ด้วยวิธีของเราเอง
ข้อดีคือ เราได้ทำในสิ่งที่ชอบ ได้ทำมันอย่างมีความสุข แทนที่จะทำให้หมดแรง กลับเป็นการเติมพลังให้เรามากขึ้นด้วยซ้ำ เราจะอยากทำมันอีก พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
พยายามเรียนรู้ว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น มันแก้ปัญหาอะไร เราไม่ชอบอะไร เราใฝ่ฝันถึงอะไร หรือเปล่า เป้าหมายที่ดี ควรเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และเป็นเป้าหมายเพื่อคนอื่น
และต้องเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขด้วย
ผมอยากเขียนแชร์เรื่องนี้ เพราะรู้ว่าน้องหลายคนก็กำลังค้นหาเส้นทางของตัวเองอยู่
ถ้าเมื่อไหร่ เรารู้สึกว่า อยากทำงานนี้ ยิ่งทำยิ่งสนุก ยิ่งทำยิ่งมีพลัง
แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ พยายามกันต่อไป
ชีวิตเป็นของเรา เราต้องเขียนมันขึ้นมาเอง .. ผมเอาใจช่วยนะครับ
ผมได้ยินเสียงบ่น เรื่องระบบการศึกษาไทย มาเป็นสิบๆ ปี ตั้งแต่ตอนเป็นวัยจ๊าบ ที่ใจร้อน ฝุดฟิต หงุดหงิด ไม่รู้ว่าจะเรียนสิ่งนี้ไปทำไม .. จนถึงตอนนี้ เข้าใจแล้วว่า ที่ผ่านมา ..
ช่วงนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น มีบริษัท Start Up หลายบริษัทเข้ามาปรึกษาหลายบริษัทด้วยกัน
YDM Thailand ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีสุดในการใช้งานเว็บไซต์แก่คุณ หากคุณดำเนินการต่อ หรือปิดข้อความนี้ลง เราถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว